การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ Product Development & Packaging

ความประทับใจในสินค้าเมื่อแรกเห็นมักจะมาจากบรรจุภัณฑ์ที่โดนใจ จนมีคำกล่าวว่า “บรรจุภัณฑ์ คือ ผลิตภัณฑ์” (The Packaging is the Product)
บรรจุภัณฑ์มีหน้าที่หลัก 3 ประการ คือ 1) ดึงดูดความสนใจให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกอยากซื้อ เช่นมีรูปทรง สัณฐาน และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม 2) ช่วยปกป้องคุ้มครองสินค้าที่อยู่ภายในให้อยู่สภาพดี ไม่เกิดการเสียหาย และ 3) สร้างความสะดวกในการขนส่งหรือพกพา
คุณพีรวงศ์ จาตุรงคกุล Creative Director ของรอยัลสวัสดี กล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ว่า ควรยึดหลัก 3 F “Fashion For Function” โดยที่

 

•Fashion คือรูปร่างที่แปลกใหม่สวยงาม 

บรรจุภัณฑ์ต้องมีความโดดเด่น ทันสมัย มีรูปแบบที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากผู้อื่น สวยงาม สะดุดตา จดจำได้ง่าย สร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับสินค้า อาจมีรูปทรงที่แปลกใหม่ มีการใช้วัสดุ ลวดลาย สีสันและเทคนิคต่างๆ (เช่นเทคนิคการพิมพ์แบบด้าน/เคลือบมัน/UV Sport หรือการออกแบบ Di-cut ให้มีรูปทรงต่างๆ) ที่ช่วยทำให้บรรจุภัณฑ์ดูแตกต่าง สวยงามสะดุดตา

 

•For สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตลาด

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องมีความชัดเจนว่าตลาดอยู่ที่ไหนและใครคือลูกค้า เพราะจะเป็นแนวทางในการวาง Concept ของการออกแบบให้โดนใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ต้องตอบสนองต่อความต้องการของตลาด เป้าหมายเป็นตลาดในหรือต่างประเทศ รูปแบบ (Style) ของบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับนิยมควรเป็นเช่นไร เช่น ถ้าลูกค้าเป็นกลุ่มเด็กและวัยรุ่น บรรจุภัณฑ์ก็ต้องมีสีสันที่สดใส มีรูปแบบ Graphic ที่ สวยงาม ทันสมัย โดนใจผู้บริโภค

 

•Function มีประโยชน์ใช้สอยได้จริง

บรรจุภัณฑ์ต้องมีความคงทนแข็งแรง สามารถรักษาสินค้าให้อยู่รอดปลอดภัยไม่แตกหัก ชำรุดเสียหาย สะดวกต่อการเปิดใช้และจัดเก็บ อำนวยความสะดวกในการขนส่งและการจัดวาง ขนาดของบรรจุภัณฑ์ต้องมีปริมาณที่ตอบสนองตรงต่อความต้องการในการใช้บริโภค แต่ละครั้ง ที่จะไม่มากหรือน้อยเกินไป บรรจุภัณฑ์ต้องสอดรับกับรูปแบบของการวางจำหน่าย เช่นจัดเรียงได้ง่าย สามารถวางซ้อนกันได้ ใช้พื้นที่น้อย มองเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ระยะไกล ให้ข้อมูลสินค้าและข้อมูลต่างๆได้อย่างถูกต้อง ชัดเจนและครบถ้วน

กุญแจสำคัญคือการพัฒนาคุณภาพอย่างไม่หยุดนิ่ง
นอกจากยึดหลัก 3F แล้ว กุญแจสำคัญที่จะสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนและถาวรให้แก่ธุรกิจคือการพัฒนาและรักษาคุณภาพของสินค้า เพราะไม่ว่าบรรจุภัณฑ์จะมีความสวยงามเลิศเลอและดึงดูดใจผู้บริโภคเพียงใดก็ตาม ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ ผู้บริโภคก็จะซื้อเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าสินค้ามีคุณภาพดีพร้อมกับมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามโดดเด่น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จและครองใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืนย่อมเป็นไปได้แน่นอน
 

ความประทับใจในสินค้าเมื่อแรกเห็นมักจะมาจากบรรจุภัณฑ์ที่โดนใจ จนมีคำกล่าวว่า “บรรจุภัณฑ์ คือ ผลิตภัณฑ์” (The Packaging is the Product)
บรรจุภัณฑ์มีหน้าที่หลัก 3 ประการ คือ 1) ดึงดูดความสนใจให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกอยากซื้อ เช่นมีรูปทรง สัณฐาน และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม 2) ช่วยปกป้องคุ้มครองสินค้าที่อยู่ภายในให้อยู่สภาพดี ไม่เกิดการเสียหาย และ 3) สร้างความสะดวกในการขนส่งหรือพกพา
คุณพีรวงศ์ จาตุรงคกุล Creative Director ของรอยัลสวัสดี กล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ว่า ควรยึดหลัก 3 F “Fashion For Function” โดยที่

 

•Fashion คือรูปร่างที่แปลกใหม่สวยงาม 

บรรจุภัณฑ์ต้องมีความโดดเด่น ทันสมัย มีรูปแบบที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากผู้อื่น สวยงาม สะดุดตา จดจำได้ง่าย สร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับสินค้า อาจมีรูปทรงที่แปลกใหม่ มีการใช้วัสดุ ลวดลาย สีสันและเทคนิคต่างๆ (เช่นเทคนิคการพิมพ์แบบด้าน/เคลือบมัน/UV Sport หรือการออกแบบ Di-cut ให้มีรูปทรงต่างๆ) ที่ช่วยทำให้บรรจุภัณฑ์ดูแตกต่าง สวยงามสะดุดตา

 

•For สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตลาด

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ต้องมีความชัดเจนว่าตลาดอยู่ที่ไหนและใครคือลูกค้า เพราะจะเป็นแนวทางในการวาง Concept ของการออกแบบให้โดนใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ต้องตอบสนองต่อความต้องการของตลาด เป้าหมายเป็นตลาดในหรือต่างประเทศ รูปแบบ (Style) ของบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับนิยมควรเป็นเช่นไร เช่น ถ้าลูกค้าเป็นกลุ่มเด็กและวัยรุ่น บรรจุภัณฑ์ก็ต้องมีสีสันที่สดใส มีรูปแบบ Graphic ที่ สวยงาม ทันสมัย โดนใจผู้บริโภค

 

•Function มีประโยชน์ใช้สอยได้จริง

บรรจุภัณฑ์ต้องมีความคงทนแข็งแรง สามารถรักษาสินค้าให้อยู่รอดปลอดภัยไม่แตกหัก ชำรุดเสียหาย สะดวกต่อการเปิดใช้และจัดเก็บ อำนวยความสะดวกในการขนส่งและการจัดวาง ขนาดของบรรจุภัณฑ์ต้องมีปริมาณที่ตอบสนองตรงต่อความต้องการในการใช้บริโภค แต่ละครั้ง ที่จะไม่มากหรือน้อยเกินไป บรรจุภัณฑ์ต้องสอดรับกับรูปแบบของการวางจำหน่าย เช่นจัดเรียงได้ง่าย สามารถวางซ้อนกันได้ ใช้พื้นที่น้อย มองเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ระยะไกล ให้ข้อมูลสินค้าและข้อมูลต่างๆได้อย่างถูกต้อง ชัดเจนและครบถ้วน

กุญแจสำคัญคือการพัฒนาคุณภาพอย่างไม่หยุดนิ่ง
นอกจากยึดหลัก 3F แล้ว กุญแจสำคัญที่จะสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนและถาวรให้แก่ธุรกิจคือการพัฒนาและรักษาคุณภาพของสินค้า เพราะไม่ว่าบรรจุภัณฑ์จะมีความสวยงามเลิศเลอและดึงดูดใจผู้บริโภคเพียงใดก็ตาม ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ ผู้บริโภคก็จะซื้อเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าสินค้ามีคุณภาพดีพร้อมกับมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามโดดเด่น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จและครองใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืนย่อมเป็นไปได้แน่นอน